สัตวแพทย์อาชีพหมอรักษาสุนัข แมว

สัตวแพทย์อาชีพที่มากกว่าแค่หมอรักษาสุนัข แมว ... แต่ต้องใช้หัวใจที่รักสัตว์ในการทำงาน

ต้องให้ความรู้ประสบการณ์  สร้างความเข้าใจ  และรักษาชีวิตสัตว์

ทุกวันนี้ในวิชาชีพด้านสัตวแพทย์เรียกได้ว่ายังขาดแคลนบุคลากรอีกมาก สาเหตุเพราะเยาวชนที่มีใจรักสัตว์สนใจจะศึกษาต่อด้านสัตวแพทย์ยังมีอยู่น้อย  นั่นอาจเป็นเพราะงานวิจัยในประเทศไทยยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับสัตวแพทย์เท่าที่ควร ทำให้นิสิต นักศึกษาไม่มั่นใจว่าการเป็นนักวิจัยหรือการทำงานเพื่อสนับสนุนงานด้านสัตวแพทย์นั้นมีโอกาสเติบโตในสายงานมากน้อยเพียงใด และส่วนหนึ่งยังอาจเข้าใจผิดว่าหมอสัตว์ต้องรักษาแต่เพียงสัตว์เท่านั้น ไม่สามารถเป็นอะไรได้มากกว่านี้ ทั้งที่ความจริงตลาดที่รองรับสายงานนี้กว้างมากกว่าที่คิด และสามารถทำประโยชน์ในด้านบริการสังคมได้อย่างกว้างขวาง

ประเทศไทยยังต้องการบุคลากรในสาขาสัตวแพทย์อีกมาก เนื่องจากขณะนี้บ้านเราได้เริ่มให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์มากขึ้นทั้งในสัตว์เลี้ยงและสัตว์เศรษฐกิจ อีกทั้งมีการพัฒนาการผลิตยาที่ใช้ในสัตว์ การสร้างผลงานวิจัยต่างๆ  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องมีสัตวแพทย์เข้ามาทำงานโดยตรง เมื่อประเทศไทยมีผลงานวิจัยที่ได้มาตรฐานสากลแล้วนั่นจะนำไปสู่การปรับทัศนคติของคนไทยส่วนใหญ่ให้เข้าใจถึงบทบาทของสัตวแพทย์ในสังคมมากขึ้น  ในส่วนนี้จะขอยกตัวอย่างหน้าที่ของสัตวแพทย์ในเรื่องการดูแลรักษาสัตว์เลี้ยง การดูแลสัตว์เลี้ยงที่แท้จริงนั้นต้องเริ่มตั้งแต่การเลี้ยงดูโดยเจ้าของที่มีความรัก ความรู้  เข้าใจและเอาใจใส่ในความต้องการและลักษณะของสัตว์แต่ละสายพันธุ์ กุญแจสำคัญคือการดูแลสัตว์ให้มีสุขภาพแข็งแรง และป้องกันไม่ให้เกิดโรค    ส่วนการรักษาเป็นแค่ปลายทางสำหรับการดูแลเท่านั้น  ซึ่งตรงนี้สัตวแพทย์มีหน้าที่ให้คำแนะนำแก่เจ้าของตั้งแต่การเลี้ยงดูจนถึงการรักษาโรคเพื่อให้สัตว์ที่เราเลี้ยงมีความสุขและสามารถอยู่กับเราไปได้นานๆ

หมอมีข้อแนะนำสำหรับการดูแลสุนัขในช่วงที่ประเทศไทยเริ่มจะเข้าสู่ฤดูร้อน โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์หน้าสั้นที่จะไม่ค่อยชอบอากาศร้อนอบอ้าวสักเท่าไหร่ เช่น สุนัขพันธุ์บูลด็อก  ปักกิ่ง   ชิสุ บอสตัน เทอร์เรียร์ เฟรนช์บูลด็อก บ็อกเซอร์ และปั๊ก  ลักษณะเฉพาะของระบบทางเดินหายใจสุนัขพันธุ์หน้าสั้นจะมีรูจมูกแคบหรือตีบ หลอดลมตีบง่าย ช่องปากมักจะมีเพดานอ่อนที่ยาวเกินไป เพดานปากส่วนนี้จึงมักไปขวางทางเดินหายใจ ทำให้เวลาสุนัขหายใจจะมีเสียงดังเหมือนคนนอนกรน การเห่าหรือใช้เสียงมากเกินไปอาจทำให้มีการบวมบริเวณด้านในของกล่องเสียงทำให้รูทางเดินหายใจแคบและหายใจไม่ออกได้   ลักษณะเหล่านี้ส่งผลให้สุนัขพันธุ์หน้าสั้นนั้นจะทนต่อสภาวะอากาศร้อนได้น้อยกว่าพันธุ์อื่นๆ เพราะโดยทั่วไปสุนัขจะมีต่อมเหงื่อจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อการระบายความร้อนเหมือนในคน สุนัขจะใช้การหอบเป็นหลักเพื่อระบายความร้อน และในสุนัขพันธุ์หน้าสั้นทางเดินหายใจจะแคบและอุดตันได้ง่ายอยู่แล้ว จากโครงสร้างของใบหน้าที่ทำให้อากาศไม่สามารถผ่านเข้าออกเพื่อระบายความร้อนได้รวดเร็วเพียงพอทำให้ความร้อนสะสมในร่างกาย เมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติมากทำให้นำไปสู่สภาวะ Heat Stroke ได้

ที่จริงในสุนัขทุกสายพันธุ์สามารถเกิดสภาวะ Heat  Stroke ได้ แต่สุนัขพันธุ์หน้าสั้นที่มีลักษณะตัวอ้วนหายใจลำบาก หรือมีขนหนา ทำให้ระบายความร้อนได้น้อยกว่าสุนัขพันธุ์อื่นๆ “Heat Stroke”  คือ สภาวะที่สุนัขมีอุณหภูมิแกนกลางของร่างกายสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการอยู่ในสภาวะอากาศที่ร้อน หรือการออกกำลังกายหนักๆ             เมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงสุนัขระบายความร้อนไม่ทัน ทำให้อวัยวะภายในทำงานผิดปกติ อาการสุนัขจะหายใจเร็วหอบ สีเหงือกและเยื่อเมือกแดง อาจจะมีอาการอาเจียน ท้องเสีย และพบจุดเลือดออกตามตัว หรือมีเลือดออกมาพร้อมกับสิ่งคัดหลั่ง เช่น อาเจียน อุจจาระ ปัสสาวะ ถ้าพบสุนัขมีอาการheat stroke สิ่งที่ควรทำระหว่างพามาพบหมอคือ ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัวสุนัข พร้อมกับนวดบริเวณกล้ามเนื้อ หรือเปิดพัดลมเป่าให้สุนัข เพื่อให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นเพื่อช่วยในการระบายความร้อน ข้อแนะนำคือห้ามเช็ดตัวด้วยแอลกอฮอล์หรือ นำสุนัขไปอาบน้ำที่เย็นจัดทั้งตัวเพราจะทำให้เส้นเลือดหดและระบายความร้อนได้น้อยกว่าเดิม เมื่อเช็ดตัวสุนัขจนสามารถลดอุณหภูมิลงมาที่ 103องศาฟาเรนไฮต์ จึงหยุดเช็ดตัวเพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิร่างกายต่ำเกินไป เมื่อทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วควรรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพราะการที่อุณหภูมิร่างกายสูงอาจจะทำให้อวัยวะภายในเสียหาย เช่น ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท ไต ระบบทางเดินอาหาร   การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นอาจจะต้องให้อยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือและออกซิเจน ส่วนอาการของสุนัขนั้นจะน่าเป็นห่วงมากน้อยขึ้นกับสุขภาพของสุนัข และระยะเวลากับระดับความร้อนที่สุนัขได้รับ

การดูแลสุนัขหน้าสั้นในช่วงอากาศร้อนทำได้โดยการอาบน้ำ แต่ถ้าสุนัขมีอาการเหนื่อยหอบอุณหภูมิร่างกายสูงมากแล้วไม่ควรอาบน้ำเด็ดขาด ควรใช้การเช็ดตัวแทน  ส่วนน้ำดื่มควรเปลี่ยนน้ำดื่มให้สุนัขให้อย่างน้อยวันละ 2 เวลา  ที่พักสุนัข  ควรให้อยู่ในที่ร่ม อากาศถ่ายเทดีตลอดทั้งวัน ถ้าเป็นไปได้ควรมีน้ำพ่นหลังคากรงตลอดเวลาจะช่วยได้มาก และในฤดูร้อนไม่ควรให้อาหารสุนัขมากเกินไป ไม่ควรพาสุนัขออกกำลังในเวลาที่ยังมีแดดออก การสังเกตเมื่อสุนัขมีอุณหภูมิร่างกายเริ่มสูงจะแสดงอาการหอบมากกว่าปกติหรือมีอาการคล้ายกับสำลัก  หากสุนัขเครียดมากเนื่องจากอากาศร้อนจัดควรให้น้ำแข็งผสมกับน้ำเย็นดื่มเพื่อช่วยระบายความร้อนในร่างกาย
สอบถาม ปัญหาหมาได้ที่  http://www.ฝึกหมา.com , http://www.ฝึกสุนัข.com หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่( www.xn--12cc2eo0ezb5as.com , www.xn--12c9cn3bxbu.com http://xn--12c9cn3bxbu.blogspot.com,http://xn--22c9ba8aeyte4cpgc3fulsa8d.blogspot.com , http://xn--22cj8c5aib4c1c3cwei.blogspot.com , http://xn--12cc2eo0ezbd4c.blogspot.com , http://xn--m3ceurwq3c6h7d.blogspot.com ,http://xn--22c9bxa0bdn4a6c.blogspot.com , http://xn--12cco6era5au6bzdd9a2b0g2f.blogspot.com , http://xn--22ca6cdwa2j4bf2e.blogspot.com , http://xn--22c9acs4b7cwbn.blogspot.com, http://xn--22cm2bo6cyaq1dl9czo.blogspot.com ,http://k9trianingdog.blogspot.com )